Pages

Saturday, September 12, 2020

'นิชิกาวะ แอร์' ขอเกาะเทรนด์ 'สุขภาพ' เจาะตลาดที่นอนหรูปั้นยอด 20 ล้าน - Positioning Magazine

seserpeer.blogspot.com
ที่นอนนิชิกาวะ แอร์

ในช่วง COVID-19 ที่ส่งผลให้หลายคนหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น แต่ไม่ใช่แค่การทานของดี ๆ หรือการออกกำลังกายเท่านั้น แต่การนอนหลับพักผ่อนก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เพราะหากใครที่มีปัญหาเรื่องการนอน สุขภาพก็จะไม่ค่อยดี และป่วยง่าย เพราะเราต้องใช้เวลา 6-8 ชั่วโมงอยู่บนเตียงเลยทีเดียว ดังนั้น จากกระแสการดูแลสุขภาพ ส่งผลให้การเลือก ‘ที่นอน’ ก็เป็นอีกสิ่งที่ผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจ ซึ่ง Positioning จะพาไปรู้จักกับแบรนด์ ‘นิชิกาวะ แอร์’ (Nishikawa Air) เครื่องนอนระดับพรีเมียมที่มีอายุถึง 454 ปี!

สำหรับนิชิกาวะ แอร์เป็นแบรนด์เครื่องนอนแบบฟูกลมเบอร์ 1 ของญี่ปุ่น โดยมีจุดเด่นที่ที่นอนมี ‘ปุ่ม’ มากถึง 1,860 ปุ่ม ซึ่งจะช่วยโอบรับสรีระ ลดการกดทับ ทำให้เกิดการไหลเวียดเลือดที่ดีขึ้น รวมทั้งเป็นเทคโนโลยีที่ท่านอนใกล้เคียงกับท่ายืนทำให้นอนหลับได้สบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบา เครื่องย้ายได้ง่าย สามารถวางทับบนที่นอนเก่าได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนอีกด้วย และไม่ได้มีเเค่ที่นอน เเต่มี ‘หมอน’ ที่ออกเเบบได้ตามความต้องการของผู้ใช้อีกด้วย โดยชุดที่นอนนิชิกาวะ แอร์มีขนาดตั้งแต่ 3-6 ฟุต ทั้งแบบใช้ในบ้านและแบบกลางแจ้ง โดยราคาเริ่มต้นที่ 31,300 – 190,000 บาท ส่วนหมอนก็มีให้เลือกแบบทั่วไปและที่สั่งทำตามความต้องการ ราคาเริ่มต้นที่ 3,300 – 13,600 บาท

ในตอนเเรกแบรนด์นิชิกาวะ แอร์ได้ถูกนำเข้าและจัดจำหน่ายโดยกลุ่มบริษัท TTTC ซึ่งดูธุรกิจใน 4 ส่วนหลัก คือ 1.การจัดงาน โตโยสึ เจแปน เฟสติวัล และการทำ Business Matching 2.ลงทุนในสตาร์ทอัพ อย่างโตโยสึ ดีเอ็กซ์ ที่ให้บริการ Flare Application 3.Well -Being และ 4.นำเข้าสินค้ามาจัดจำหน่าย แต่ในปีนี้ TTTC ต้องการเน้นที่จะเจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์มากขึ้น จึงได้ก่อตั้ง บริษัท โตโยสึ แอล แอนด์ ซี (ไทยแลนด์) จำกัด ขึ้นมาเพื่อนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าโดยเฉพาะ ดังนั้น แบรนด์เครื่องนอนนิชิกาวะ แอร์จึงถูกนำเข้ามาในนามของบริษัท โตโยสึ แอล แอนด์ ซี (ไทยแลนด์) จากเดิมที่นำเข้ามาในนาม TTTC

นางอนุษฐา เชาว์วิศิษฐ ผู้อำนวยการ บริษัท โตโยสึ แอล แอนด์ ซี (ไทยแลนด์) จำกัด (ขวา) โนบุฟุมิ มิอุระ ประธานกรรมการบริษัท โตโยสึ แอล แอนด์ ซี (ไทยแลนด์) จำกัด (ซ้าย)

คุณโนบุฟุมิ มิอุระ ประธานกรรมการบริษัท โตโยสึ แอล แอนด์ ซี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า โพซิชั่นของแบรนด์นิชิกาวะ แอร์จะอยู่ในกลุ่มพรีเมียม โดยที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดสาขาแรกที่ห้างสยามทาคาชิมายะ ไอคอนสยามเพียงแห่งเดียว แต่ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะรุกตลาดให้มากขึ้น เพราะบริษัทไม่อยากจะพึ่งพายอดขายจากลูกค้าที่ซื้อที่พักอาศัยใหม่เหมือนอดีต เนื่องจากเห็นว่าภาพรวมของยอดขายอสังหาฯ ที่ไม่ดี ขณะที่ช่วง COVID-19 เอง ยอดขายกลับดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

ดังนั้น บริษัทจึงขยายการทำตลาด โดยเปิดโชว์รูมเต็มรูปแบบแห่งแรกขึ้นที่สำนักงานบริษัท โตโยต้า ทูโชว์ (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อให้พนักงานออฟฟิศและผู้อาศัยในบริเวณใกล้เคียงได้เข้ามาทดลองใช้ โดยหวังให้เกิดกระแสปากต่อปาก พร้อมกับมีทีม ‘โฮมเซลล์’ โดยจะมีทีมเซลล์ไปตามบ้านลูกค้า พร้อมกับนำชุดนอนให้ทดลองใช้ฟรี 3 วัน เพื่อให้ได้ทดลองใช้จริงแบบเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ข้อมูลของลูกค้าที่บริษัทได้จะมาจากการออกบูธตามห้างสรรพสินค้าและช่องทางออนไลน์

ในส่วนของกลุ่ม B2B นิชิกาวะ แอร์ จะรุกในส่วนของกลุ่มท่องเที่ยว, โรงแรม, โรงพยาบาล โครงการอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทที่ทำรอยัลตี้สะสมแต้มแลกของรางวัล โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้า B2B แล้ว 2 ราย คือ รถไฟสาย Eastern & Oriental Express และโรงแรมหรูแบรนด์ไทยอีก 1 แห่ง และเพื่อให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น บริษัทจึงเปิดให้ผ่อน 0% นาน 10 เดือนสำหรับลูกค้าทั่วไป และมีการทำลิสซิ่งสำหรับลูกค้าองค์กรที่สนใจ เพราะต้องยอมรับว่า ‘ราคา’ ถือเป็นข้อจำกัดสำคัญของแบรนด์

“ในกลุ่มพรีเมียมนี้มีคู่แข่งเยอะมาก แต่ละรายก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันในการนำเสนอให้กับลูกค้า โดยเราจะเน้นที่ด้านสุขภาพ ที่ผ่านมามีการสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมฟุตบอล เพื่อให้เห็นภาพการฟื้นฟูร่างกายที่ชัดเจน หรืออย่างผู้ป่วยติดเตียงก็นำสินค้าเราไปใช้ ซึ่งช่วยลดอาการแผลกดทับได้ด้วย” นางอนุษฐา เชาว์วิศิษฐ ผู้อำนวยการ บริษัท โตโยสึ แอล แอนด์ ซี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวเสริม

ภายในสิ้นปี บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 20 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 15 ล้านบาท และต้องการปรับสัดส่วนรายได้จาก B2C 80% ส่วน B2B 20% เป็น 60/40 และเติบโต 100% ใน 3 ปี ขณะที่ภาพรวมของบริษัททั้งหมด ตั้งเป้าทำรายได้ 50 ล้านบาทในปีนี้ โดยจะเน้นที่การลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพเป็นหลัก รวมถึงนำเข้าแบรนด์สินค้าจากญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติมอย่างน้อย 1 แบรนด์ในปีหน้า ขณะที่ส่วนของการจัดงานโตโยสึ เจแปน เฟสติวัลต้องพักไปก่อนเพราะ COVID-19

ปัจจุบัน ตลาดเครื่องนอนมีการเติบโตต่อเนื่อง 5-7% โดยแบ่งเป็นกลุ่มระดับล่างราคาต่ำกว่า 7,000 บาท มีสัดส่วน 50% โดยกลุ่มนี้ไม่เติบโต เนื่องจากมีการเเข่งขันราคารุนแรง กลุ่มระดับกลางราคาตั้งแต่ 7,000-20,000 บาท มีสัดส่วน 30% เติบโต 10% และกลุ่มพรีเมียมราคาตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป มีสัดส่วน 20% เติบโต 7-8%

Let's block ads! (Why?)



"สุขภาพ" - Google News
September 12, 2020 at 06:14PM
https://ift.tt/3hlSVFD

'นิชิกาวะ แอร์' ขอเกาะเทรนด์ 'สุขภาพ' เจาะตลาดที่นอนหรูปั้นยอด 20 ล้าน - Positioning Magazine
"สุขภาพ" - Google News
https://ift.tt/2TYvbic

No comments:

Post a Comment