A-B-O-AB กินตามกรุ๊ปเลือด เลือกอย่างไรให้สุขภาพดี
วันที่ 28 มิ.ย. 2563 เวลา 08:30 น.
ถอดสูตรกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดจากหนังสือ Best Seller “Eat Right For Your Type” การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดทำให้คนเราสามารถมีสุขภาพที่ดีขึ้น อายุยืนขึ้น แถมยังช่วยเรื่องลดความอ้วน
ทำไมต้องกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด?
คำตอบสั้นๆ จากหลายๆ คน เมื่อได้ยินคำถามนี้ก็คือ อยากมีสุขภาพดี! อยากอายุยืนยาว! อยากลดความอ้วน! สำหรับแนวคิดการกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดมาจากหนังสือ Best Seller ที่ชื่อว่า “Eat Right For Your Type” ของ Dr.Peter D’Adamo กล่าวเอาไว้ว่า การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดทำให้คนเราสามารถมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ มีอายุที่ยืนมากขึ้น แถมยังควบคุมน้ำหนักของตัวเองได้อีกด้วย เนื่องจากเลือดในแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีที่แตกต่างกัน หากกินอาหารที่ไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดก็จะทำให้การทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย ทั้งระบบย่อยอาหาร ระบบเผาผลาญ การสร้างอินซูลิน และฮอร์โมนในร่างกายเกิดความไม่สมดุล จากความแตกต่างนี้เองทำให้ความสามารถในการย่อยอาหารต่างกัน ถ้าสามารถย่อยอาหารได้หมด ร่างกายก็จะนำสารอาหารไปใช้ได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าย่อยไม่หมดก็จะตกค้างอยู่ในร่างกายและก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายตามมา
ที่เราอ้วนอาจไม่ใช่เพราะกินเยอะ!!!
คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าที่อ้วนลงพุงน้ำหนักเยอะอยู่ทุกวันนี้ เกิดจากการกินเกินความต้องการ เวลาอยากจะลดน้ำหนักคนส่วนมากมักพยายามจำกัดการกินอาหาร แต่ผลที่ตามมาก็คือร่างกายขาดสารอาหาร แถมเมื่อกินอาหารไปก็รู้สึกไม่อิ่ม เพราะสมองไม่สั่งให้หยุดกิน ทำให้หิวอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้ากินอาหารตามกรุ๊ปเลือดอย่างเหมาะสม สมองก็จะรับรู้และทำให้รู้สึกอิ่ม ปริมาณอาหารที่กินก็น้อยลง ดังนั้น ไม่ว่าเราจะกินอาหารที่ดีมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด ก็จะไม่ช่วยควบคุมน้ำหนักแต่อย่างใด
Dr.Peter J. D’Adamo ใช้เวลาในการศึกษาเรื่องนี้มานานกว่า 30 ปี จนในที่สุดเขาก็ได้รับรางวัลแพทย์ธรรมชาติบำบัดยอดเยี่ยมจากอเมริกาในปี 1990 และได้เขียนหนังสือชื่อ “Eat Right for Your Type” ซึ่งเขาอธิบายไว้ว่า “เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดต่างกัน แต่จะมี Antigen เป็นตัวกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ในอาหารทุกชนิดล้วนมีโปรตีนซึ่งเป็นอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติเหนียวและจับเกาะติดเลือด เรียกว่า ‘เล็คติน’ โดยจะเกิดขึ้นเมื่อการกินอาหารที่มีเล็คตินไม่เหมาะกับเลือดเรา นอกจากนี้ เล็คตินยังเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร การสร้างอินซูลิน การเผาผลาญอาหาร และความสมดุลของฮอร์โมนอีกด้วย
ง่ายๆ คือในร่างกายเรามีกลุ่มเลือดหลักอยู่ คือ A-B-O-AB โดยในเม็ดเลือดของเราจะมีโปรตีนแอนติเจน (Antigen) และในหมู่เลือดของมนุษย์จะมีหมู่เลือดที่เราคุ้นเคยและรู้จักกันดีอยู่ 2 ระบบ คือ
- ระบบ ABO (เอบีโอ) คือหมู่เลือดที่แบ่งเป็นเอ บี โอ และเอบี ซึ่งคนไทยส่วนมากจะอยู่ในหมู่เลือดโอ
- ระบบ Rh (อาร์เอช) จะแบ่งเป็น Rh (+) (อาร์เอชบวก) และ Rh (-) (อาร์เอชลบ) ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ที่มีหมู่เลือดอาร์เอชบวก มีเพียงประมาณ 03% ของประชากรทั้งหมดที่จะมีหมู่เลือดอาร์เอชลบ
เทคนิคกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดแบบง่ายๆ
- กรุ๊ปเลือดที่มีความเป็นกรดสูง = กินเนื้อสัตว์ได้มาก เรียงตามลำดับ O > B > AB > A
- กรุ๊ปเลือดที่มีความเป็นกรดต่ำ = กินผักได้มาก เรียงตามลำดับ A > O > AB > B
หมายเหตุ : แม้ว่ากรุ๊ป O เลือดจะมีความเป็นกรดสูง แต่ต้องกินผักมากเป็นอันดับ 2 เพราะเมื่อกินเนื้อมากก็ต้องกินผักมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดสมดุล
อย่างไรก็ตาม หากใครต้องการจะดูแลสุขภาพจากข้อมูลของแต่ละกลุ่มเลือดที่แนะนำให้รับประทานก็ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหาย เพราะล้วนอยู่ในอาหารหลัก 5 หมู่ แต่ควรรับประทานตามความเหมาะสม ไม่มาก หรือน้อยจนเกินไป ดังนี้
เลือดกรุ๊ป A
ควรเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น อาหารทะเล ปลา ผักสดและผลไม้ รวมถึงธัญพืชต่างๆ และอาหารที่ทำจากธัญพืช เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทเนื้อสัตว์เหล่านี้ เช่น วัว หมู เป็ด กุ้ง ปู ปลาดุก หอยนางรม หอยแครง รวมถึงนมและผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น
อาหารช่วยลดน้ำหนักคือ อาหารมังสวิรัติจะช่วยลดน้ำหนักได้เร็วมาก แถมยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายอีกด้วย ส่วนการออกกำลังกายควรเน้นออกกำลังกายแบบเบา เช่น โยคะ และควรนั่งสมาธิเป็นประจำเพื่อคลายเครียด
เลือดกรุ๊ป B
สามารถเลือกทานอาหารได้หลากหลายทั้งเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ นม อาหารทะเล ได้ในปริมาณที่เหมาะสม
อาหารช่วยลดน้ำหนัก ได้แก่ ผักใบเขียว ปลา เวลาลดน้ำหนักควรหลีกเลี่ยงขนมปังทุกชนิด ธัญพืชต่างๆ โดยเฉพาะถั่วลิสง ข้าวโพด งา และมะเขือเทศ เพราะมีผลต่อการสร้างอินซูลินและระบบเผาผลาญอาหาร การออกกำลังกายควรออกกำลังกายแบบไม่หนักหรือเบาจนเกินไป เช่น เล่นเทนนิส ศิลปะป้องกันตัว การปีนเขา เป็นต้น
แต่มีเรื่องน่าเศร้าของคนกรุ๊ป B คือเป็นคนอ้วนง่าย แถมภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดีอีกต่างหาก ทำให้มีปัญหาเรื่องการติดเชื้อไวรัส มีระบบประสาทไม่ค่อยดี ปวดตามข้อเป็นประจำ และมีโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้ตัวเองได้ด้วย
เลือดกรุ๊ป O
ควรเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนสูง สามารถกินเนื้อสัตว์ได้ทุกชนิด แถมยังกินผักและผลไม้ได้ในปริมาณที่มากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่นๆ อีกด้วย นับว่าโชคดีสุดๆ ไปเลย
อาหารช่วยลดน้ำหนัก ได้แก่ เนื้อวัว, อาหารทะเล, สาหร่ายทะเล, ผักจำพวกบร็อกโคลี, ผักโขม เวลาลดน้ำหนักควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้ง ถั่ว น้ำตาล และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม จะทำให้ระบบเผาผลาญแย่ส่งผลให้น้ำหนักตัวขึ้นได้ง่าย
เรื่องที่ทำให้คนกรุ๊ปเลือด O หงุดหงิดใจก็คือ มักมีปัญหาเรื่องระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไม่คงที่ทำให้อ้วนได้ง่าย ควรเน้นการออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก ๆ เช่น วิ่งมาราธอน ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ ก็จะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้เป็นอย่างดี
เลือดกรุ๊ป AB
ควรเลือกทานอาหารประเภท ปลา นม เต้าหู้ ธัญพืช ผักและผลไม้ กินเนื้อสัตว์ได้น้อยกว่าคนกรุ๊ป B และกินผักได้ไม่เท่ากับคนกรุ๊ป A เพราะคนกรุ๊ปเลือด AB มีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ
อาหารช่วยลดน้ำหนัก ได้แก่ เต้าหู้ ผักใบเขียว ธัญพืช และสาหร่ายทะเล ควรหลีกเลี่ยงอาหาร ได้แก่ ไก่ ข้าวโพด ถั่วแดง ธัญพืช สามารถกินข้าวและขนมปังได้บ้าง เพราะแป้งไม่ทำให้อ้วนได้ง่ายเหมือนคนกรุ๊ป O ที่สำคัญควรงดอาหารหมักดองทุกชนิด การออกกำลังกาย ควรเน้นการออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น เดิน เล่นโยคะ เป็นต้น
นอกจากจะเลือกกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดเพื่อช่วยควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสมแล้ว การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็นับเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ และอย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 3 วันหรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น มีร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย
"สุขภาพ" - Google News
June 28, 2020 at 08:32AM
https://ift.tt/3g5PUJw
A-B-O-AB กินตามกรุ๊ปเลือด เลือกอย่างไรให้สุขภาพดี - โพสต์ทูเดย์
"สุขภาพ" - Google News
https://ift.tt/2TYvbic
No comments:
Post a Comment