Pages

Wednesday, August 26, 2020

ลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด อันตรายถึงเสียชีวิต - สําหรับโรคปอดรั่ว นพ.ศิระ เลาหทัย - ข่าวสด

seserpeer.blogspot.com

ลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด อันตรายถึงเสียชีวิต - สําหรับโรคปอดรั่ว นพ.ศิระ เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หน่วยศัลยศาสตร์ทรวงอกและหัวใจ ภาควิชาศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล อธิบายว่า เป็นภาวะลมในเยื่อหุ้มปอดที่เกิดขึ้นเอง (spontaneous pneumothorax) หรือที่เรียกว่าโรคปอดรั่ว

เป็นภาวะที่ถุงลมที่พองผิดปกติในปอดจนเกิดการแตกขึ้นมา ทำให้ลมมีการสะสมในช่องเยื่อหุ้มปอดจนส่งผลทำให้กดเบียดเนื้อปอดบางส่วน และบางรายสามารถเบียดไปยังหัวใจและอาจส่งผลทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งจำเป็นต้องรีบรับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะถ้ารักษาเร็ว จะสามารถลดความอันตรายถึงแก่ชีวิตที่จะเกิดได้ โดยกลุ่มโรคนี้จะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มแรก คือ ภาวะลมในเยื่อหุ้มปอดที่เกิดขึ้นเองแบบปฐมภูมิ (Primary spontaneous pneumothorax ; PSP) ซึ่งมักพบในกลุ่ม วัยรุ่นโดยอุบัติการณ์โรคที่จะเกิดในเพศชายและเพศหญิงคือ 24 และ 10 ราย จาก จำนวน 100,000 รายต่อปี โดยกลุ่มนี้มีความเสี่ยงอาจเกิดจากการสูบบุหรี่ ทั้งยังมีรายงานการศึกษาถึงความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ที่ส่งผลต่อภาวะลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด

ซึ่งในบางรายอาจพบผู้ป่วยที่เกิดจากภาวะเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือ ลมรั่วตามประจำเดือน (catamenial pneumothorax) โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก เกิดใน ช่วงที่มีประจำเดือนควบคู่กัน โดยในกลุ่มแรกการรักษาด้วยการผ่าตัดค่อนข้างเข้ามามีบทบาทค่อนข้างสูงและได้ผลลัพธ์ที่ดีและสามารถลดอาการได้

กลุ่มที่สองคือ ภาวะลมในเยื่อหุ้มปอดที่สัมพันธ์กับโรคอื่น (Secondary pneumothorax) โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้มักเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น ถุงลมโป่งพองเรื้อรัง หรือ โรคทางปอดอย่างอื่น

อาการผู้ป่วยที่มีภาวะลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดอาจมีอาการตั้งแต่เจ็บแน่นหน้าอกฉับพลัน หายใจหอบเหนื่อย และในรายที่มีอาการมากอาจเกิดภาวะที่เรียกว่า Tension pneumothorax โดยผู้ป่วยจะมีอาการอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นและมีความดันโลหิตต่ำ โดยภาวะนี้เกิดจากลมรั่วจากถุงลมในเยื่อหุ้มปอดมีปริมาณมากจนไปกดเบียดหลอดเลือดดำใหญ่ที่เข้าที่หัวใจ ส่งผลทำให้หัวใจไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างปกติ อาจเสียชีวิตได้

การรักษาลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์เมื่อมีอาการแน่นหน้าอกอยู่แล้ว เมื่อแพทย์ได้เอกซเรย์และวินิจฉัยว่ามีลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดแล้ว ในกรณีที่ลมรั่วมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ผู้ป่วยจำเป็นต้องใส่สายระบายทรวงอกเพื่อระบายลมที่รั่วออกมา โดยขั้นตอนถัดไปคือ การตรวจหาสาเหตุของโรค ในปัจจุบันการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) ได้เข้ามามีบทบาทค่อนข้างมากในการหาตำแหน่งและจุดที่เกิดการรั่วและสาเหตุของลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด ในกรณีที่ผู้ป่วยตรวจเจอว่ามีถุงลม (subpleural bleb) กลุ่มนั้นมีโอกาสเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นซ้ำมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์

การผ่าตัดภาวะลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดนั้น ในปัจจุบันแนวทางในการรักษาภาวะลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดสามารถทำได้โดยการผ่าตัดผ่านการส่องกล้อง (Video Assisted Thoracoscopic surgery; VATS) ซึ่งเป็นการผ่าตัดแผลเล็กขนาด 2-3 เซนติเมตรบริเวณซี่โครง โดยเป้าหมายของการผ่าตัดรักษาคือ การจัดการกับสาเหตุของลมรั่วในปอด โดยการตัดถุงลม (blebs, bullae) ที่แตกร่วมกับการสร้างพังผืด (surgical pleurodesis) ระหว่างเยื่อหุ้มปอด เพื่อลดอัตราการกลับมาเป็นซ้ำ โดยข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้องนั่นคือสามารถลดภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น ลดอาการปวดจากการผ่าตัด รวมไปถึงลดระยะเวลาการนอนพักรักษาที่โรงพยาบาลหลังการผ่าตัด

สอบถามรายละเอียดการรักษาได้ที่ เฟซบุ๊กผ่าตัดหัวใจและผ่าตัดส่องกล้อง คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล

Let's block ads! (Why?)



"สุขภาพ" - Google News
August 26, 2020 at 01:40PM
https://ift.tt/3gvcWcD

ลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด อันตรายถึงเสียชีวิต - สําหรับโรคปอดรั่ว นพ.ศิระ เลาหทัย - ข่าวสด
"สุขภาพ" - Google News
https://ift.tt/2TYvbic

No comments:

Post a Comment